สำหรับแฟนๆ ของสโมสรฟุตบอลยูเวนตุส เชื่อว่าคนส่วนใหญ่น่าจะรู้จัก เดล ปิเอโร่ (Del Piero) นักฟุตบอลระดับชั้นแนวหน้า เจ้าของฉายา “ตำนานเบอร์ 10” กันเป็นอย่างดี เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่เจ้าตัวลงเล่นในนามของทีมดังกล่าว เขาสร้างผลงานระดับตำนานเอาไว้มากมาย แถมยังแวะเวียนไปช่วยทีมชาติอิตาลีเป็นครั้งคราวอีกด้วย จึงทำให้เขาอยู่ท่ามกลางความสนใจเสมอมา แม้ว่าตอนนี้บทบาทในฐานะของนักฟุตบอลอาชีพจะเริ่มลดน้อยลงไปมากก็ตาม แต่เขาเลือกที่จะปลีกตัวออกไปทำหน้าที่เบื้องหลังแทน เพื่อสร้างสรรค์บุคลากรรุ่นใหม่ๆ ขึ้นมาประดับวงการอย่างต่อเนื่อง
เดล ปิเอโร่ เคยร่วมงานกับสโมสรต่างๆ เป็นจำนวนมาก ประกอบไปด้วย สโมสรฟุตบอลปาโดวา สโมสรฟุตบอลยูเวนตุส สโมสรฟุตบอลซิดนีย์ และปิดท้ายด้วยสโมสรฟุตบอลเดลีไดนาโมส์ แต่หากจะกล่าวถึงผลงานอันโดดเด่นที่สุดของ เดล ปิเอโร่ คงต้องยกให้การร่วมทีมกับสโมสรฟุตบอลยูเวนตุส ในระหว่างปี ค.ศ.1993 – 2012 ที่ผ่านมา โดยลงแข่งขันไปทั้งหมด 701 นัด ช่วยทีมทำแต้มจำนวนกว่า 289 ประตูด้วยกัน จนกระทั่งแฟนๆ ทั่วโลกมักจะกล่าวขานถึงเขาในนามของ “ตำนานเบอร์ 10” เสียเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากเจ้าตัวมีผลงานโดดเด่นมาก จนกระทั่งกลายเป็นที่ยอมรับโดยทั่วกัน
ก่อนหน้านี้ทางด้านของ เดล ปิเอโร่ เคยแวะเวียนมาร่วมเล่นกับทีมชาติอิตาลีด้วยเช่นกัน ลงสนามแข่งขันไปทั้งหมด 91 นัด ช่วยทีมทำแต้มจำนวน 27 ประตู โดยผลงานโดดเด่นที่สุดน่าจะเป็นการเข้าร่วมแข่งขันศึกฟุตบอลโลก ซึ่งสำหรับการแข่งขันศึกฟุตบอลโลกเมื่อปี ค.ศ.1998 เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นฝีมือดี จนหลายคนมองว่าน่าจะกลายเป็นตัวแทนของ “โรแบร์โต บัจโจ” ตำนานเทพบุตรผมเปียชาวอิตาลี กระทั่งการแข่งขันศึกฟุตบอลโลกเมื่อปี ค.ศ.2006 เดินทางมาถึง เขาได้เข้าร่วมในศึกครั้งนี้ด้วยเช่นเดียวกัน ผลปรากฏว่าทีมชาติอิตาลีสามารถคว้าแชมป์มาครอบครองได้สำเร็จเป็นสมัยที่ 4 ในประวัติศาสตร์
ตลอดเส้นทางนักฟุตบอลอาชีพของ เดล ปิเอโร่ เขาได้รับการยกย่องมาอย่างต่อเนื่อง แถมมีเกียรติประวัติอันทรงคุณค่าอีกด้วย เคยได้รับตำแหน่งดาวซัลโวฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรยุโรปประจำปี ค.ศ.1998 รวมไปถึงตำแหน่งนักฟุตบอลยุโรปยอดเยี่ยมแห่งปี รุ่น U-21 และเคยคว้ารางวัลรองเท้าทองคำประจำปี ค.ศ.2007 มาครอบครองได้สำเร็จ แต่ปัจจุบันเจ้าตัวตัดสินใจเปลี่ยนบทบาทจากการเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาทำหน้าที่อยู่เบื้องหลังแทน โดยเมื่อปี ค.ศ.2016 ที่ผ่านมา เขาได้รับการเชิญชวนจากสโมสรฟุตบอลมายอร์ก้าให้เข้ามารับตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการกีฬาของทีม ซึ่งยังคงทำหน้าที่ดังกล่าวมายาวนานจนถึงตอนนี้ แม้ว่าประสบการณ์ทางด้านการบริหารอาจจะยังมีไม่มากเท่าไหร่นัก แต่เขากลับทำหน้าที่ในฐานะของผู้อำนวยการกีฬาได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว